สรุปปัญหาสิ่งแวดล้อมปี 2567 จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พบไทยและโลกเผชิญวิกฤตโลกร้อน-มลพิษ (ที่มา SDG MOVE)

7 มกราคม 2568

ประเทศไทยต้องเผชิญผลกระทบสิ่งแวดล้อมมากมาย อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประเด็นปัญหาในปี 2567ภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้องด้านสิ่งแวดล้อมได้ออกมาระดมความเห็นและออกนโยบายต่าง ๆ เพื่อเร่งดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนงานด้านสิ่งแวดล้อม ได้ถอดบทเรียนสรุปสถานการณ์เด่นสิ่งแวดล้อมไทยและสิ่งแวดล้อมโลก

สรุปสถานการณ์เด่นสิ่งแวดล้อมไทยและสิ่งแวดล้อมโลก ได้ดังนี้

สิ่งแวดล้อมไทย

  • ปัญหามลพิษทางอากาศฝุ่น PM2.5 ต้นปีในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มลพิษทางอากาศอย่างรุนแรง มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้ทางการเกษตรและการเผาของประเทศเพื่อนบ้านที่ทำให้เกิดหมอกควันข้ามพรมแดน ขณะที่พื้นที่ภาคกลางเกิดปัญหาการเผาในที่โล่ง มลพิษจากโรงงาน รวมถึงปัญหาการจราจรที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ประกอบกับสภาพอุตุนิยมวิทยาที่มีลักษณะอากาศนิ่ง และไม่เอื้ออำนวยต่อการกระจายตัวของอากาศ
  • ปัญหามลพิษจากขยะชุมชน ในปี 2567 พบมีปัญหาขยะเพิ่มขึ้นถึง 28 – 29 ล้านตันต่อปี ซึ่งหากการบริหารจัดการขยะบนฝั่งไม่ถูกต้องจะมีขยะรั่วไหลลงทะเลจำนวนมาก โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ระบบนิเวศเสื่อมโทรม และอาจเกิดการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกในห่วงโซ่อาหารที่แทรกซึกกลับเข้ามาสู่ร่างกายของมนุษย์ 
  • ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ในปีนี้เกิดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลต่อความแห้งแล้งในช่วงต้นปีและน้ำท่วมช่วงปลายปี วิกฤตที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นทั้งความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น เช่นสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา

สิ่งแวดล้อมโลก

  • ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) นับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งน้ำแข็งละลายสู่มหาสมุทรส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศสุดขั้วเกิดจากความแปรปรวนของโลก ทำให้เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญหรือลานีญาขึ้น
  • ปัญหาความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ปัญหาโลกร้อน ส่งผลให้มหาสมุทรด้วยเช่นกันเมื่อดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้ความเป็นกรดสูงขึ้น และอุณหภูมิของทะเลมหาสมุทรสูงขึ้นด้วย ผลกระทบที่เห็นได้ชัด คือ เกิดปะการังฟอกขาว ทั้งฝั่งทะเลอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน รวมถึงในช่วง 2 -3 เดือนก่อนหน้านี้พบพะยูนตายไปกว่า 30 ตัว ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการสูญเสียแหล่งอาหารอย่างหญ้าทะเลที่ได้ตายเป็นบริเวณกว้างมากขึ้น 

ด้วยสถานการณ์ดังกล่าว ภาครัฐและหน่วยงานทีเกี่ยวข้องต้องหันมาให้ความสำคัญและตระถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างทางรอดที่ยั่งยืนให้กับสังคมในอนาคต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ปัญหาฝุ่น..แก้ไม่ได้..ถ้ามองไม่เห็น: เมื่อระบบสุขภาพเป็นแค่ปลายน้ำของปัญหา 
– คุณภาพระบบนิเวศทะเลไทยอาจวิกฤติ หาก “ปัญหาขยะพลาสติกในทะเล” ยังไม่ถูกจัดการอย่างยั่งยืน
– มรสุม 2567: เมื่อเส้นชีวิตกลายเป็นภัยพิบัติ สำรวจสถานการณ์น้ำท่วมเเละการตั้งรับปรับตัวของไทย 
– ไทยเผชิญปรากฏการณ์ ‘ปะการังฟอกขาว’ ครั้งใหญ่ พบปะการังตายกว่า 40% เหตุโลกร้อน-น้ำทะเลเดือด 
– สัตว์-พืช กว่าล้านสายพันธุ์เสี่ยงสูญพันธุ์เร็วขึ้น ผลจาก climate change เเละมลพิษ กระทบระบบนิเวศทั่วโลก 
– COP 27 ย้ำการปกป้อง ‘ความหลากหลายทางชีวภาพ’ เชื่อมโยงกับ ‘การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ’ เป็นเรื่องที่ไม่อาจแยกออกจากกัน 

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี 
– (3.9) ลดจำนวนการตายและการเจ็บป่วยจากสารเคมีอันตรายและจากมลพิษและการปนเปื้อนทางอากาศ น้ำ และดิน ให้ลดลงอย่างมาก ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
– (11.5) ลดจำนวนการตายและจำนวนคนที่ได้รับผลกระทบและลดการสูญเสียโดยตรงทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของโลกที่เกิดจากภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึงภัยพิบัติที่เกี่ยวกับน้ำ โดยมุ่งเป้าปกป้องคนจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง ภายในปี 2573
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
– (13.1) เสริมภูมิต้านทานและขีดความสามารถในการปรับตัวต่ออันตรายและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศในทุกประเทศ
– (13.2) บูรณาการมาตรการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในนโยบาย ยุทธศาสตร์และการวางแผน ระดับชาติ 
– (13.3) พัฒนาการศึกษา การสร้างความตระหนักรู้ และขีดความสามารถของมนุษย์และของสถาบันในเรื่องการลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับตัว การลดผลกระทบ การเตือนภัยล่วงหน้า
#SDG14 นิเวศทางทะเลและมหาสมุทร
– (14.1) ป้องกันและลดมลพิษทางทะเลทุกประเภทอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากกิจกรรมบนแผ่นดิน รวมถึงขยะทะเลและมลพิษจากธาตุอาหาร (nutrient pollution) ภายในปี 2568
– (14.2) บริหารจัดการและปกป้องระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบที่มีนัยสำคัญ รวมถึงโดยการเสริมภูมิต้านทานและปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟู เพื่อบรรลุการมีมหาสมุทรที่มีสุขภาพดีและมีผลิตภาพ ภายในปี 2563
#SDG15 ระบบนิเวศบนบก
– (15.5) ปฏิบัติการที่จำเป็นและเร่งด่วนเพื่อลดการเสื่อมโทรมของถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ หยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และภายในปี พ.ศ. 2563 ปกป้องและป้องกันการสูญพันธุ์ของชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคาม

ที่มา : https://www.sdgmove.com/2025/01/03/summary-of-the-environmental-situation-2024/