“กนอ.”ย้ำความมุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน นำทีมบินลัดฟ้าศึกษาดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น ใน 4 องค์กรชั้นนำ เพื่อหารือความร่วมมือและศึกษาแนวทางการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจสีเขียวรูปแบบใหม่
นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-8 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กนอ. ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ Green Transition เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาและยกระดับนิคมอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืนกับ 4 องค์กรชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น
โดยไฮไลท์ของการศึกษาดูงานในครั้งนี้ เริ่มที่ IHI Corporation เมืองโยโกฮาม่า ที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาด เพื่อศึกษาเทคโนโลยี เช่น Gas turbine ที่ใช้เชื้อเพลิงแอมโมเนีย 100% ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเทคโนโลยีดักจับและใช้ประโยชน์จาก CO2 (CCU) โดยเฉพาะเทคโนโลยีการแยกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากสารละลายกลุ่ม Amine เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการ Methanation เพื่อผลิตเป็นพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในกระบวนการทางอุตสาหกรรม
ถัดมาได้ไปที่ JFE Urban Recycle Corporation บริษัทชั้นนำด้านการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ที่ได้เรียนรู้และสอบถามข้อมูลของกระบวนการ ตั้งการถอดแยกชิ้นส่วน การลดขนาด การแยกประเภทวัสดุ การแปรรูปการจัดการสารอันตราย ที่น่าสนใจคือ บริษัทฯ นี้ดำเนินการตามหลักการ "Polluter Pay Principle" ที่ให้เจ้าของขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และการจัดการ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษานวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ NEC Corporation เช่น การเดินสายเส้นไฟเบอร์ในพื้นที่ใต้น้ำทั่วโลก การพัฒนาระบบเซ็นเซอร์เพื่อประยุกต์ใช้ในงานขนส่ง เช่น พยากรณ์การจราจร การติดตามรถ การตรวจระบบไบโอเมตริกซ์เพื่อระบุตัวตนบุคคล พร้อมศึกษาแนวทางการพัฒนา NEC’s GX Solutions เพื่อส่งเสริมการลดผลกระทบ (Mitigation) และการปรับตัว (Adaptation) ของอุตสาหกรรมและเมืองด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเก็บข้อมูลและวิเคราะห์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกตาม Scope 1,2,3 และพัฒนาโมเดลวิเคราะห์ความสูญเสียจากการเกิดภัยพิบัติในประเทศ (Adaptation Finance) ภายในพื้นที่วิจัย NEC Future Creation Hub
และสุดท้ายได้ไปศึกษาการดำเนินงานของโรงงานรีไซเคิลดินของ S.P.E.C. (Tokyo Super Eco Town) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรีไซเคิลดินในพื้นที่กรุงโตเกียว เริ่มตั้งแต่การเข้าสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสอบการปนเปื้อนของดิน ขุดดินและนำไปรีไซเคิลตามขั้นตอนต่างๆ เช่น การผสมปูนขาวเพื่อทำให้ดินแห้ง การร่อนแยกขยะ การทำความสะอาดล้างดิน
ดินที่ผ่านการรีไซเคิลแล้วจะถูกนำไปขายหรือนำไปถมพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่เหมือง เพื่อปลูกป่า หรือพื้นที่สำหรับสร้าง Solar Farmโดยมีอัตราค่าบริการ 30,000 เยนต่อตัน ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของดินผสม และบริษัทฯมีกำลังการผลิตรีไซเคิลดิน 1,500 ตันต่อวัน หรือ 30 ล้านตันต่อปี
“การศึกษาดูงานของ กนอ.ครั้งนี้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ให้ก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ของบริษัท IHI และ NEC corporation ตามเป้าหมาย Net Zero ส่วนธุรกิจรีไซเคิลดินของบริษัท S.P.E.C. ก็จะช่วยส่งเสริมการดำเนินงานตามแนวทาง Circular Economy
Circularity Platform เพื่อ ซื้อ ขาย บริการ สำหรับวัสดุรีไซเคิล และ เศรษฐกิจหมุนเวียน